ธารา บัวคำศรี แปลเรียบเรียงจาก Asahi Shimbum เขียนโดย TATSUYUKI KOBORI 

สองเดือนก่อนการประกาศอย่างเป็นทางการว่าแท่งเชื้อเพลิงในเตาปฏิกรณ์สามเตาที่โรงไฟฟ้าฟูกูชิมาหมายเลข 1  เกิดการหลอมละลาย ทีมงานขององค์กรด้านความปลอดภัยทางอุตสาหกรรมและนิวเคลียร์(NISA) ไม่ได้สนใจและไม่ได้ทำอะไรกับข้อมูลที่ละเอียดอ่อนดังกล่าว

ทีมงานได้สรุปในรายงานว่าการหลอมละลายเกิดขึ้นที่เตาปฏิกรณ์หมายเลข 1 ถึง 3 เมื่อเวลาบ่าย 2.45 ของวันที่ 18 มีนาคม 2554 หนึ่งสัปดาห์หลังจากเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ทางภาคตะวันออกของญี่ปุ่น เป็นเอกสารตามที่หลังสือพิมพ์อาซาฮีชิมบุนได้รับผ่านการร้องขอภายใต้กฎหมายด้านเสรีภาพของข้อมูลและข่าวสาร

แต่ NISA ไม่ได้ทำการตีพิมพ์รายงานการวิเคราะห์ของทีมงานเนื่องจากเป็นการรวมตัวอย่างลังเลใจของเจ้าหน้าที่องค์กร 10 คน รวมถึงจากกระทรวงอุตสาหกรรมและองค์กรด้านความปลอดภัยนิวเคลียร์ของญี่ปุ่น

Eiji Hiraoka รองผู้อำนวยการของ NISA กล่าวว่าเขาไม่ได้ให้ความสำคัญเร่งด่วนกับรายงานดังกล่าวเนื่องจากไม่มีกฎเกณฑ์ในการรวมเอางานของกลุ่มที่ตั้งขึ้นมาชั่วคราว

Hiraoka ยอมรับว่ามันได้สะท้อนถึงความล้มเหลวของการจัดตั้งทีมงานภายใต้โครงสร้างขององค์กรที่มีอยู่อย่างเป็นทางการ

บริษัทเท็ปโก ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมา นั้นก็ตระหนักว่าเกิดการหลอมละลายที่เตาปฏิกรณ์หมายเลข 1 ในวันที่ 15 พฤษภาคม 2554 และเตาปฏิกรณ์หมายเลข 2 และ 3 ในวันที่ 24 พฤษภาคม 2554 สองเดือนหลังจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมาเกิดความเสียหายจากแรงแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์สึนามิ

NISA รับรองว่าเกิดการหลอมละลายหลังจากการประกาศของบริษัทเท็บโก การวิเคราะห์ของทีมงานไม่ได้ถูกนำมาใช้ในการอธิบายต่อสาธารณชนหรือใช้ในการรับมือเบื้องต้นกับหายนะภัยนิวเคลียร์ที่เกิดขึ้น

คณะทำงานเฉพาะกิจเริ่มปฏิบัติภารกิจในวันที่ 14 มีนาคม 2554 ภายใต้ศูนย์รับมือฉุกเฉินของ NISA

หน่วยงานประสานและวางแผนนโยบายของ NISA ร้องขอการจัดตั้งทีมงานเพื่อทำการประเมินล่วงหน้าในช่วงเวลาที่หน่วยงานปกติที่รับผิดชอบในการวิเคราะห์นั้นต้องทำงานด้านการรับมือฉุกเฉิน

ทีมงานทำการวิเคราะห์ข้อมูลระดับน้ำและความดันในเตาปฏิกรณ์ รวมถึงการอ่านค่าจาก the Containment Atmospheric Monitoring System ซึ่งวัดอัตราการเกิดขึ้นของปริมาณรังสีภายในส่วนครอบเตาปฏิกรณ์ ข้อมูลทั้งหมดถูกส่งไปที่บริษัทเท็ปโกอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา

ในวันที่ 15 มีนาคม ระดับรังสีเพิ่มขึ้นสูงที่เตาปฏิกรณ์หลายเลข 1 และ 2 แสดงให้เห็นว่า แท่งเชื้อเพลิงที่หลอมละลายได้ตกลงในส่วนพื้นของเตาปฏิกรณ์

ถึงแม้จะเกิดการหลอมละลายของเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ในขั้นดังกล่าว รายงานของทีมงานกล่าวว่า เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ยังคงมีเสถียรภาพตราบเท่าที่มีการสูบน้ำเข้าไปจากด้านนอก และแท่งเชื้อเพลิงที่หลอมละลายและตกลงไปกองอยู่ที่พื้นนั้นส่วนใหญ่จมอยู่ใต้น้ำ

แต่การวิเคราะห์นี้ถูกนำมาใช้เพื่อเอกสารอ้างอิงเนื่องจากทีมงานที่ตั้งขึ้นไม่ได้อยู่ภายใต้กรอบอย่างเป็นทางการของ NISA