ธารา บัวคำศรี แปลสรุปจาก Great Beer Needs Clean Water: NRDC Partners with Craft Brewers to Protect the Clean Water Act. http://www.nrdc.org/media/2013/130409.asp

หากไร้ซึ่งเบียร์ อาจไม่มีอารยธรรมของมนุษย์ หนึ่งหมื่นสองพันปีก่อน การเปลี่ยนแปลงจากสังคมเร่ร่อนเก็บของป่าล่าสัตว์มาเป็นชุมชนเกษตรกรรมของมนุษย์นั้นต้องพึ่งพาอาศัยแหล่งอาหารเหลวที่ช่วยทำให้สดชื่นและเสริมความแข็งแรงให้กับร่างกาย และน้ำไม่สามารถทำได้เพราะจะมีการปนเปื้อนได้ง่าย ยากที่จะทำให้น้ำสะอาดและน้ำยังเป็นตัวกลางในการแพร่กระจายเชื้อโรคได้ดี

สตีพ จอห์นสันเขียนไว้ในหนังสือเกี่ยวกับโรคท้องร่วงที่ระบาดในลอนดอนในปี 1854 ว่า “ทางออกคือการดื่มแอลกอฮอล์”

ถึงแม้ว่าเบียร์จะไม่่ใช่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์แรกสุดของมนุษย์ แต่มันเป็นสิ่งที่ง่ายที่สุดในการทำและเก็บไว้ในปริมาณมาก

ปัจจุบัน แทนที่เบียร์จะมาแทนน้ำสะอาด เบียร์ที่ดีนั้นขึ้นอยู่กับน้ำสะอาด เบียร์ที่เราดื่มนั้นเป็นน้ำร้อยละ90 คนทำเบียร์ใช้เวลาอย่างมากกับการคิดถึงความบริสุทธ์และความมั่นคงของแหล่งน้ำที่นำมาใช้ทำเบียร์ เพราะว่าเบียร์มีส่วนผสมหลักสี่ส่วนคือน้ำ มอลต์ ฮอบส์ และยีสต์ รสชาติและคุณลักษณะของส่วนประกอบหลักนั้นมีผลมากต่อผลิตผลสุดท้าย หรือพูดให้ง่ายก็คือ ยิ่งน้ำดีมากเท่าไร เบียร์ก็ยิ่งดีมากขึ้นเท่านั้น

คนทำเบียร์ในปัจจุบันนั้นเข้าใจความสำคัญของน้ำสะอาดและยินดีที่จะต่อสู้เพื่อมัน ในสหรัฐอเมริกา กลุ่ม Natural Resources Defense Council ทำงานร่วมกับผู้ผลิตเบียร์รายย่อยให้ออกมาสนับสนุนกฏหมายน้ำสะอาดซึ่งออกมาตั้งแต่ปี 1972 แต่มีผลบังคับใช้ในการปกป้องแหล่งน้ำสะอาดในสหรัฐได้น้อยมาก การสำรวจขององค์การพิทักษ์สิ่งแวดล้อมของสหรัฐได้ระบุว่าร้อยละ 55 ของแหล่งน้ำในประเทศตกอยู่ในสภาวะวิกฤต มีระดับของฟอสเฟตและไนโตรเจนที่สูงมากๆ

เบียร์มิใช่เพียงอุตสาหกรรมเดียวที่ต้องพึ่งพาน้ำสะอาด แต่ในฐานะเป็นธุรกิจขนาดเล็ก ผู้ผลิตเบียร์รายย่อยมีความสนใจเป็นพิเศษในการปกป้องแหล่งน้ำสะอาดในพื้นที่ของตน การรณรงค์มีความสอดคล้องกันทางประวัติศาสตร์ อีกครั้งหนึ่งที่ เบียร์สามารถช่วยปกป้องแหล่งน้ำสะอาดได้