อ่านข่าวแล้วเศร้า หดหู่ใจ เมื่อกระทรวงพลังงานและชนชั้นนำผู้วางแผนพลังงานของประเทศไทยทั้งหลายบอกว่าจะเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินจากเดิม 4,400 เมกะวัตต์ ในแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าเป็น 10,000 เมกะวัตต์ และเป็นไปได้ที่จะถอดเอาการผลิตไฟฟ้าจากนิวเคลียร์ออกไป
ที่ผมรู้สึกเศร้าใจก็เพราะตอบตัวเองไม่ได้ว่า ทำไมพวกเขาจึงคิดได้เพียงแค่นี้
พวกเขาในที่นี้ ผมหมายถึง คนใหญ่คนโตที่อยู่ใน กฟผ. สนพ. และกระทรวงพลังงาน ผู้ซึ่งเป็นผู้ยึดกุมการวางแผนพลังงานระดับชาติ
จินตนาการของพวกเขาหายไปไหน พวกเขาแกล้งโง่หรือว่าโง่จริงๆ
แน่นอนว่า การถอดนิวเคลียร์ออกจากแผนพีดีพี เป็นเรื่องที่ชมเชย แต่ต้องดูให้เห็นทั้งหมด
เพราะมันคือ “หนีเสือปะจระเข้”
ถ้าประเทศไทยจะผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินรวมกันเป็นจำนวน 10,000 เมกะวัตต์ เราต้องมีโรงไฟฟ้าถ่านหินใหม่ราว 140 โรง ขึ้นเป็นดอกเห็ดทั่วประเทศ โดยอ้างว่าไม่มีปัญหาเพราะมันคือถ่านหินสะอาด และประเทศอื่นๆ ในเอเชียที่เจริญแล้วก็มีการผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินในสัดส่วนที่สูง
นี่คือแผนที่สกปรกไม่ต่างจากถ่านหิน
แม้ว่าแผนสกปรกดังกล่าวนี้จะยังไม่ผ่านความเห็นชอบใดๆ แต่ก็พอเดาได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นลางๆ กับอนาคตพลังงานของไทย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งชุมชนท้องถิ่นจำนวนมหาศาลที่จะตกอยู่ในเงื้อมเงาทะมึนของอุตสาหกรรมถ่านหิน
นี่คือชนชั้นนำผู้วางแผนนโยบายพลังงานแห่งชาติ พวกเขาสิ้นคิด ไร้ซึ่งจินตนาการ และช่างโง่เขลาและมืดบอดเสียนี่กระไร