ธารา บัวคำศรี แปลเรียบเรียงจาก https://www.chinadialogue.net/article/show/single/en/7757-China-documentary-on-smog-becomes-an-instant-internet-sensation

สารคดีที่ทำโดยอดีตผู้ประกาศข่าว CCTV เรื่องผลกระทบของหมอกควันพิษในปักกิ่งที่มีต่อลูกสาวของเธอ ได้มีคนนับล้านเข้าไปดูหลังจากมีการเผยแพร่ออนไลน์

หลังจากลูกสาวที่ยังอยู่ในครรภ์ของเธอตรวจพบว่ามีเนื้องอก Chai Jing ได้ลาออกจากงานที่โทรทัศน์ CCTV และระดมเงินทุนด้วยตัวเองทำสารคดีเกี่ยวกับหมอกควันพิษของจีนเรื่อง ‘Under the Dome’ ซึ่งใช้เวลา 1ปีเต็ม และนับแต่มีการเปิดตัวสารคดี ได้กลายเป็นความรู้สึกร่วมในโลกออนไลน์

ในวันที่ 1 มีนาคม 2558 Chen Jining รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมซึ่งเพิ่งได้รับตำแหน่งงานได้ 48 ชั่วโมง กล่าวชื่นชม Chai Jing ที่ใช้ประเด็นสุขภาพเพื่อกระตุ้นให้ประชาขนได้ตระหนักเรื่องสิ่งแวดล้อม

สารคดียาว 103 นาทีนี้เปิดตัวในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพียงวันแรกมีผู้คนเข้าไปคลิกในเว๊บไซต์วิดีโอของจีน เช่น Youku ถึง 75 ล้านคลิก สองวันต่อมามีการเปิดเข้าไปดู 200 ล้านครั้ง เป็นสถิติใหม่ของสารคดีที่มีความยาวและมีเนื้อหาที่จริงจัง ถ้าจะเปรียบเทียบ house of cards ภาพยนตร์ชุดแนวการเมืองที่นิยมมากในสหรัฐมีการคลิก 20 ล้านเมื่อออกอากาศในจีนในช่วงสัปดาห์แรก

ในปี 2013 ลูกสาวในครรภ์ของ Chai ตรวจพบว่ามีเนื้องอก โชคดีที่ไม่ร้ายแรงมากและการรักษาหลังคลอดก็เป็นไปได้ด้วยดี Chai ลาออกจากงานในปี 2014 เพื่อดูแลลูกสาวของเธอ

Chai เป็นหนึ่งในอดีตนักข่าวแนวสืบสวนสอบสวนที่ได้รับความน่าเชื่อถือมากที่สุดของสถานีโทรทัศน์ CCTV หนังสือบันทึกความทรงจำของการทำงานที่สถานีโทรทัศน์เป็นหนังสือที่ขายดีในปี 2013 ส่วนแบ่งจากการเขียนหนังสือเล่มนั้นนำมาใช้ในการทำสารคดี

เมื่อหมอกควันพิษในปักกิ่งมีความเข้มข้นมากขึ้น ความโกรธของ Chai ยิ่งเพิ่มขึ้นเพราะเธอพบว่ามีความยากขึ้นที่จะใช้ชีวิตอย่างปกติกับลูกน้อยที่เพิ่งลืมดูโลก

เธอกล่าวว่า “หมอกควันพิษเข้าปกคลุมชีวิตทั้งชีวิตของเรา” นครปักกิ่งมีวันที่หมอกควันพิษปกคลุม 175 วันในปี 2014 “ครึ่งปีที่ฉันต้องเก็บลูกสาวไว้ดังเช่นนักโทษ”

ในตอนเช้า บางครั้งฉันจะพบเธอยืนที่หน้าต่าง วางมือไว้ที่กระจก พยายามจะแสดงให้ฉันรู้ว่าเธออยากไปข้างนอก“

ชื่อสารคดีอิงจากชื่อนิยายวิทยาศาสตร์ของอเมริกาและภาพยนตร์ชุด ที่เขียนโดยสตีเฟนคิง นักเขียนนวนิยายขายดี เป็นเรื่องเกี่ยวกับสนามพลังลึกลับและมองไม่เห็นที่คืบคลานเข้าสู่เมืองเล็กๆ กักขังเอาชาวเมืองไว้ข้างในและตัดขาดพวกเขาออกจากอารยธรรม

Chai ตัดสินใจสำรวจปัญหามลพิษทางอากาศอันเรื้อรังของจีน เธออธิบายว่าทุกๆ สิ่งที่ทำก็เพื่อที่ตอบคำถามที่เธอจะถาม อะไรคือหมอกควันพิษ(Smog) มันมาจากไหน เราทำอะไรได้บ้าง

เพื่อหาคำตอบให้กับคำถามเหล่านี้ เธอต้องเดินทางไปยังพื้นที่ปนเปื้อนมลพิษทั่วประเทศจีน นอกจากนี้ยังเดินไปลอส แองเจลีส และลอนดอนเพื่อหาคำตอยว่าเมื่อเหล่านี้จัดการกับมลพิษทางอากาศอย่างไร

สารคดี ’Under the Dome’ อธิบายว่าหมอกควันพิษ(Smog)คืออะไร อันตรายของมัน มันเกิดขึ้นได้อย่างไรและปัญหาในการจัดการกับหมอกควันพิษ รวมถึงว่าเราแต่ะคนทำอะไรได้บ้าง Chaiบอกว่าหมอกควันพิษเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับพลังงานซะเป็นส่วนใหญ่ ร้อยละ 60 ของมลพิษที่อากาศในกรณีภายในประเทศจีนมาจากการเผาใหม้ถ่านหินและน้ำมันเพื่อผลิตไฟฟ้า และในปี 2013 จีนเผาใหม้ถ่านหินมากกว่าทุกประเทศรวมกัน Chai ยังชี้ให้เห็นถึงความล้มเหลวของระบบและการจัดการมลพิษทางอากาศและหมอกควันพิษนี้

คำถามเรื่องสิ่งแวดล้อมและการเจริญเติบโต

ในการสัมภาษณ์กับ People.com.cn Chai กล่าวว่าที่ผ่านมารายงานข่าวของเธอเรื่องหมอกควันพิษนั้นตรงตามข้อเท็จจริง รายงานข่าวเรื่องบริษัทผู้ก่อมลพิษ หรือรัฐบาลท้องถิ่นที่ต้องการจะพัฒนาเศรษฐกิจ และตัวเธอเองก็ไม่แน่ใจ เราต้องการการเจริญเติบโต หรือการปกป้องสิ่งแวดล้อม

แต่การทำงานสืบสวนเรื่องราวในสารคดีนี้ เธอรู้สึกว่าไม่มีความย้อนแย้งระหว่างสองสิ่งนั้น มลพิษทางอากาศมิใช่ผลของการปฏิรูปหรือการเปิดกว้าง และจริงๆ แล้วการปฏิรูปตลาดอย่างเต็มที่นั้นจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อแก้ปัญหานี้

ในมุมมองของเธอ การปกป้องสิ่งแวดล้อมนั้นมิใช่ภาระ สำหรับ Chai กฎหมายที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมมากขึ้นคือแหล่งของนวัตกรรมที่จะส่งเสริมความสามารถในการแข่งขัน การจ้างงานและการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ประสบการณ์จากหลายประเทศทั่วโลกสนับสนุนมุมมองดังกล่าวของเธอ

จากการอธิบายของ Chai ปัญหาของหมอกควันพิษจัดการได้หากรัฐบาลลดการแทรกแซงที่ไม่จำเป็นลงและปล่อยให้ตลาดเป็นผู้มีบทบาทในการจัดสรรทรัพยากร บทบาทของรัฐบาลที่จำเป็นคือการออกนโยบายและบังคับใช้กฏหมาย ตลาดที่มีการแข่งขันและมีความเป็นธรรมจะช่วยกระจายทางออกที่สร้างสรรค์ในการแก้ปัญหามลพิษ ทั้งหลายเหล่านี้เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับการปฏิรูปของจีนในปัจจุบัน

Chai ส่งเอกสารและสื่อที่เธอรวมรวมในช่วงที่ถ่ายทำสารคดีไปให้คณะกรรมการที่ร่างการทบทวนกฏหมายมลพิษทางอากาศของจีน เธอยังได้รับการตอบรับเมื่อเธอส่งเอกสารและสื่อชุดเดียวกันไปให้คณะทำงานเพื่อการปฏิรูปอุตสาหกรรมก๊าซธรรมชาติและน้ำมันของจีน

เงื่อนเวลา

The Sina columnist Entertainment Capitalism ชมเชยงานสารคดีชิ้นเอกของเธอในการที่ดึงดูดความสนใจของผู้คนก่อนที่จะมีการประชุมประจำปีของผู็นำสูงสุดของพรรคคอมมิวนิสต์จีน หรือที่เรียกกันในภาษจีนว่า ‘Lianghui’

Cao Jingxing นักวิพากษ์ที่โด่งดังจาก Phoenix TV commentator ส่งข้อความทวีตว่า “ขอบคุณ Chai Jing สมาชิก ตัวแทน และเจ้าหน้าที่คณะกรรมการทุกชุดที่ Lianghui ควรดูสารคดีนี้”

อย่างไรก็ตาม ภาพยนตร์สารคดีของ Chai ก็มีคนวิจารณ์ ผู้ซึ่งกล่าวว่า มันไม่เป็นวิทยาศาสตร์ที่จะระบุว่าปัญหาสุขภาพของลูกสาวเธอมาจากผลกระทบของหมอกควันพิษ และการใช้กรณีของลูกสาวเธอ ทำให้สารคดีสืบสวนสอบสวนนั้นมีน้ำหนักน้อยลง

Cui Yongyuan ผู้ประกาศข่าวและอดีตเพื่อนร่วมงานของ Chai ที่สถานีโทรทัศน์ CCTV บอกกับสื่อมวลชนว่า Chai จะเจอกับการโจมตีด้วยคำถามและการกล่าวหาให้เสียหายทางออนไลน์ ปีก่อน Cui ทำงานสารคดี ‘The Gene Report’ ที่ใช้เงินทุนของตัวเองเพื่อตั้งคำถามเรื่องความปลอดภัยของอาหารจีเอ็มโอ ข้อคันพบของเขานั้นถูกโจมตีจากเจ้าหน้าที่รัฐบาล

Cui เพิ่มเติมว่า สารคดีสองเรื่องนั้นส่งผลสะเทือนต่อผลประโยชน์ หากเจ้าหน้าที่รัฐหรือบริษัทต้องขายหน้า และถ้าพวกเขาต้องสูญเสียเงินหรือไม่มีการเลื่อนตำแหน่ง พวกเขาจะโจมตีคุณ

ฤดูใบไม้ผลิที่เงียบเหงาแห่งจีน?

ความรู้สึกร่วมจากสารคดีของ Chai ได้ทำให้นักวิจารณ์ในจีนประหลาดใจ Li Jiangtao นักวิชาการอาวุโสที่สถาบันเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัย Tsinghua กล่าวในบทความของเขาว่า ปัจจัยสามประการที่ทำให้ภาพยนตร์สารคดีนี้มีความน่าสนใจต่อผู้ชมคือ เหตการณ์ใหญ่ๆ (หมอกควันพิษในจีน) มุมแรงๆ ที่นำเสนอเรื่องมนุษย์ที่โยงกับผู้ประกาศข่าวโทรทัศน์ที่มีชื่อเสียง และความตื่นตัวที่เพิ่มมากขึ้นในเรื่องสิ่งแวดล้อม

Li ระบุว่า ช่วงเวลาการนำเสนอนั้นก็ยิ่งน่าสนใจ พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้มีการประชุมสูงสุด การแต่งตั้งนาย Chen Jining รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อม และการรณรงค์ต่อต้านคอรัปชั่นของผู้นำจีน

Chen กล่าวว่า เมื่อดูสารคดีทำให้นึกย้อนถึงความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อมในระดับโลกตอนที่หนังสือ “ความเงียบในฤดูใบไม้ผลิ Silent Spring ของราเชล คาร์สันตีพิมพ์ออกมาในปี 1962 และสารคดีของ Chai มีนัยะสำคัญอย่างยิ่งในการยกระดับความตื่นตัวของสาธารณะชนในเรื่องสิ่งแวดล้อมและผลกระทบสุขภาพที่เกิดขึ้นจากมลพิษ

Chen กล่าวว่ากระทรวงของเขาและสื่อมวลชนนั้นอยู่ข้างเดียวกัน และภาพยนตร์สารคดี ‘Under the Dome’ แสดงถึงปฏิสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาล สังคมและสื่อมวลชน

ผลสะเทือนของสารคดียังเกิดขึ้นต่อตลาดหลักทรัพย์ของจีนอีกด้วย โดยที่ส่วนแบ่งตลาดของบริษัทธุรกิจอุปกรณ์ลดมลพิษนั้นเพิ่มขึ้น ทำให้หุ้นของบริษัทเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อมจำนวนหนึ่งเพิ่มขึ้นกว่าขอบเขตที่มีการซื้อขายกัน