#จักรยานสองขาท้าโลก
ธารา บัวคำศรี แปลเรียบเรียงจาก
The Bicycle: Vehicle for a Small Planet, Worldwatch Paper #90, September 1989 เขียนโดย Marcia D. Lowe
ดาวน์โหลด pdf ไฟล์ จักรยาน พาหนะเพื่อโลกใบน้อย
——————
เนเธอร์แลนด์และเดนมาร์กเป็นสังคมจักรยานที่เป็นแบบอย่างของยุโรป “การท่องเที่ยวด้วยจักรยาน” คือกิจการอุตสาหกรรมที่สำคัญ มีผู้คนนับพันเดินทางไปตามถนนในชนบทเพื่อชมภูมิทัศน์ธรรมชาติที่หลากหลาย และเที่ยวเมืองอันงดงามราวกับภาพวาด เช่นเดียวกับที่อื่นๆ ในยุโรป โครงการส่งเสริมจักรยานเพื่อใช้งานเอนกประสงค์ในประเทศทั้งสองเป็นส่วนหนึ่งของการแสวงหาทางเลือกการเดินทางที่ไม่พึ่งพารถยนต์ เนเธอร์แลนด์และเดนมาร์กเป็นผู้นำเรื่องนโยบายจักรยานในปัจจุบัน แสดงว่า ได้มีการริเริ่มมาก่อนหน้านี้นานแล้ว
เนเธอร์แลนด์มีธรรมเนียมปฏิบัติในการขี่จักรยานมาเป็นเวลานาน ทั้งการขี่เพื่อพักผ่อนหย่อนใจและการเดินทางไปมาประจำวัน ประเทศอุตสาหกรรมอื่นๆ บทบาทของจักรยานมีน้อยลง ในช่วงทศวรรษที่ 50 และ 60 เป็นช่วงที่คนจำนวนมากซื้อรถยนต์ แต่การขี่จักรยานฟื้นคืนกลับมาเมื่อผลกระทบอย่างรุนแรงของรถยนต์ได้เกิดขึ้นอย่างเหลือเชื่อ นั่นคือวิกฤติการณ์พลังงานและนิเวศวิทยาในช่วงทศวรรษ 70
รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ตระหนักว่า การส่งเสริมจักรยานไม่เพียงปรับปรุงสิ่งแวดล้อมของเมือง แค่ยังทำให้มีการขยายระบบการคมนาคมขนส่งโดยไม่ต้องสร้างถนนผ่านศูนย์กลางเมืองประวัติศาสตร์ หรือใช้งบประมาณจำนวนมากของรัฐบาล ระหว่างปี พ.ศ.2518 และ 2528 รัฐบาลใช้เงินประมาณ 230 ล้านเหรียญสร้างเส้นทางจักรยานและที่จอดจักรยาน และเพิ่มความสะดวกในการเดินทางโดยทำโครงสร้างพื้นฐานของจักรยานไว้ที่สถานีรถไฟ ในทางกลับกัน งบประมาณทางหลวงแผ่นดินเริ่มลดลงในต้นคริสตทศวรรษที่ 80 และเงินทุนสำหรับโครงการจักรยานมีมากกว่าร้อยละ 10 ของเงินทุนที่ใช้ในการสร้างถนนรถยนต์
ปี พ.ศ.2529 เส้นทางจักรยานของเนเธอร์แลนด์ครอบคลุมระยะทาง 13,500 กิโลเมตร แต่สิ่งสำคัญที่เป็นความสำเร็จมากกว่านั้น คือ ชาวดัชท์พยายามสร้างเส้นทางจักรยานให้ตรง ไม่มีจุดตัด เหมาะกับการขี่จักรยานมากกว่าที่จะให้พวกเขาออกไปใช้เส้นทางจราจรแบบอื่น ทำให้มีการสัญจรไปมาด้วยจักรยานในเมืองน้อยใหญ่ของเนเธอร์แลนด์ โดยทั่วไปอยู่ระหว่างร้อยละ 20 ถึง 50 ของการเดินทางทั้งหมด
โครนินเจน เมืองใหญ่ที่สุดของภาคเหนือของเนเธอร์แลนด์ ใช้วิธีการผสมผสานที่มีประสิทธิมากกว่าการทำโครงสร้างพื้นฐานซึ่งแยกจักรยานออกมาจากระบบจราจรอื่นๆ ลายจอดและเส้นทางจักรยานจะสร้างให้สอดคล้องกับนโยบายการจราจรที่วางแผนอย่างดี ทำให้การขี่จักรยานเพิ่มขึ้นครึ่งหนึ่งของการเดินทางทั้งหมดในเมือง การส่งเสริมจักรยานที่เมืองเดลฟ์ท มีการสร้างอุโมงค์และสะพานจักรยานข้ามทางแยกอันตรายและเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อจัดดระบบการจราจร คือ สัญญาณจราจรที่เรียกว่า Activated Signals ซึ่งปกติ มีสัญญานตรวจจับเฉพาะรถยนต์ สัญญานจราจรนี้จะตรวจจับจักรยานเมื่อมาถึงทางแยกด้วยเส้นทางบริเวณทางแยกได้ทำเขตหยุดรถจักรยานไว้ในด้านหน้าสุดและให้ออกรถไปก่อน ผู้ขี่จักรยานยังมีสิทธิขี่ย้อนเส้นทางรถยนต์ในถนนบางสายที่เดินรถทางเดียวได้อีกด้วย
นอกจาก ขี่จักรยานแทนขับรถยนต์ เนเธอร์แลนด์ยังค้นหาสมดุลของระบบคมนาคมขนส่งด้วยรถยนต์กับจักรยาน และการเดินเท้า โดยทำให้เป็นนโยบายระดับชาติ ถนนเฉพาะคนเดินเท้าและถนนจำกัดความเร็วมีทั่วไปในเมืองของเนเธอร์แลนด์และมีการห้ามจอดรถยนต์บนถนนหลายสายของเมืองต่างๆ ถนนหลายสายในเขตที่อยู่อาศัยถูกเปลี่ยนเป็นพื้นที่ผู้คนมาพบปะชุมชนกัน หรือ Woonerven แนวคิดนี้นำมาใช้ในคริสตทศวรรษที่ 70 ภายในพื้นที่ที่เรียกว่า Woonerven ถนนรถยนต์กลายเป็นพื้นที่ปูเรียบ การเดินทางทุกชนิดสามารถเข้าไปได้ แต่ให้ความสำคัญกับจักรยานและคนเดินเท้าก่อน และรถยนต์เข้าไปในฐานะ “แขกผู้มาเยี่ยม”
แต่ความนิยมใช้รถยนต์ที่เพิ่มมหาศาลเมื่อไม่นานมานี้ ท้าทายเนเธอร์แลนด์ให้ทุ่มเทกำลังเข้าไปคงความนิยมใช้จักรยาน ปี พ.ศ.2521 Nellie Smit-Kroes รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมแห่งเนเธอร์แลนด์ประกาศแผนการใหญ่ ไม่เพียงแต่ลดจำนวนรถยนต์จาก 50 ล้านคันในปัจจุบันให้เป็น 8 ล้านคันดังที่ประมาณไว้ในอีก 20 ปีข้างหน้า เท่านั้น แต่ต้องการให้ลดเหลือเพียง 3.5 ล้านคัน ภาษีการซื้อและการใช้รถยนต์จะเพิ่มขึ้นอีกครึ่งหนึ่ง ขณะที่ระบบขนส่งมวลชนจะได้รับเงินอุดหนุนพิเศษ 5.7 พันล้านเหรียญต่อปี ระบบอิเล็กทรอนิกส์แบบใหม่ในรถยนต์จะบันทึกระยะเดินทางของรถแต่ละคันและ “ผู้ขับเกินระยะ” ต้องจ่ายภาษีเพิ่ม