สรุปความจากบทความของ Jen Maman – Greenpeace International’s senior peace advisor based in Istanbul.

เด็กยากจนในประเทศยูกันดา หากพวกเขาฝันอยากจะอ่านออกเขียนได้ ค่าใช้จ่ายในการเรียนในโรงเรียนประถมที่นั่นอยู่ที่ 14 เหรียญสหรัฐ แต่ครอบครัวของเด็กยากจนหลายคนไม่มีทางหาเงินมาจ่าย

ข้อมูลวิเคราะห์ล่าสุดจาก Stockholm International Peace Research Institute (SIPRI) ระบุว่า งบประมาณทางการทหารทั่วโลกคิดเป็น 1.8 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ

งบประมาณที่มักเรียกกันว่า “งบกลาโหม” นี้ มีมากกว่างบประมาณด้านอื่นๆ ของรัฐบาลต่างๆ ทั้งที่ใช้เพื่อกิจการภายในและกิจการระหว่างประเทศ

ข้อมูลของกลุ่ม 5 Per Cent Campaign ชี้ให้เห็นว่า โดยเฉลี่ย ประเทศอุตสาหกรรมใช้งบกลาโหมมากเป็น 3 เท่าเมื่อเทียบกับงบประมาณด้านการศึกษา (ส่วนในสหรัฐอเมริกาจะเป็น 6 เท่า) ส่วนประเทศยากจนส่วนใหญ่และประเทศกำลังพัฒนาที่เศรษฐกิจขยายตัวอย่างรวดเร็วนั้นไม่ต้องพูดถึง สัดส่วนงบกลาโหมกับงบการศึกษาและสาธารณสุขนั้นมีมากกว่าหลายเท่าตัว ส่วนการค้าขายอาวุธให้กับประเทศในแอฟริกานั้นเพิ่มขึ้น 45% ตั้งแต่ ค.ศ. 2005 เป็นต้นมา

ปัจจุบันยังมีเด็กอีก 58 ล้านคนทั่วโลกที่ไร้ซึ่งการศึกษาขั้นพื้นฐาน

ประมาณว่า ทั่วโลก เราใช้เงินราว 26 พันล้านเหรียญสหรัฐเพื่อการศึกษาขั้นพื้นฐาน ค่าใช้จ่ายดังกล่าวนี้เท่ากับค่าใช้จ่ายในกิจกรรมทางการทหารทุก ๆ สัปดาห์โดยประเทศต่างๆ ทั่วโลก

เมื่อเดือนตุลาคม 2556 เพนตากอนนำเสนอรายงานยืนยันว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศคือความเสี่ยงที่คืบคลานอยู่ใกล้ๆ และถูกรวมเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการตัดสินใจของกระทรวงกลาโหมสหรัฐแบบวันต่อวัน

Chuck Hagel อดีตรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐและเป็นอดีตผู้ต่อต้านความคิดเรื่องโลกร้อน กล่าวว่า “การเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยผิวโลก การเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล สภาวะอากาศสุดขั้วจะขยายให้ปัญหาความไม่มั่นคงของโลก ความอดหยากหิวโหย ความยากจน และความขัดแย้งเพิ่มมากขึ้น”

ถึงกระนั้น งบประมาณด้านความมั่นคงทางสภาพภูมิอากาศยังคงหยุดอยู่กับที่ สหรัฐอเมริกาใช้เงิน 610 พันล้านเหรียญ ไปกับกิจการทหารในปี 2556 แม้ว่าจะลดลงไปราวร้อยละ 6.5 จากปี 2555 เนื่องจากการขาดงบดุล แต่ก็ยังมากกว่า 3 เท่าเมื่อเทียบกับงบกลาโหมของจีน

เรือ Littoral Combat Ships ซึ่งเป็นเรือรบที่มีภารกิจหลักในการปฏิบัติการในเขตน้ำตื้นต่อเนื่องจากชายฝั่งถึงทะเลเปิด 4 ลำ เพียงพอที่จะใช้เป็นงบประมาณเพื่อพลังงานหมุนเวียนและประสิทธิภาพพลังงานของกระทรวงพลังงานของสหรัฐได้เป็นสองเท่า ถ้าปลดระวางระเบิด B-1 ที่ใช้ในยุคสงครามเย็น สหรัฐอเมริกาก็จะประหยัดไปได้อีก 3.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ และพอที่จะปรับปรุงบ้านเรือน 4.6 ล้านหลังเพื่อเพิ่มประประสิทธิภาพพลังงานไปอีกร้อยละ 20

เราต้องเรียกร้องให้รัฐบาลจัดลำดับความสำคัญของการใช้งบประมาณเสียใหม่ หยุดการใช้งบไปกับแผนการทำสงครามอันใหม่ รถถัง ระเบิด และเอาเงินภาษีประชาชนมาทำให้คนทั้งหลายมีชีวิตที่ดีและปลอดภัยขึ้น ใช้เงินเพื่อลงทุนด้านการศึกษาและการเปลี่ยนผ่านระบบพลังงานที่มีความเป็นธรรม