รายงานข่าว Bloomberg โดย Tom Schoenberg และ David McLaughlin
http://www.bloomberg.com/news/articles/2014-12-23/alstom-s-mr-paris-paid-millions-in-bribes-u-s-says
23 ธันวาคม 2557
(เครดิตภาพ: Chris Ratcliffe/Bloomberg)
ผู้บริหารบริษัท Alstom SA ชนะประมูลโครงการมูลค่าหลายพันล้านเหรียญสหรัฐในซาอุดิอาราเบียเมื่อสิบปีก่อนโดยจ่ายอามิสสินจ้างอย่างน้อยที่สุด 49 ล้านเหรียญ ผ่านคนกลางที่บริษัทเรียกว่า “มิสเตอร์ปารีส” และ “มนุษย์เงียบ”
พนักงานอัยการของสหรัฐฯ ในกรุงวอชิงตันระบุว่า เงินสินบนเป็นเครื่องมือที่บริษัทอุตสาหกรรมพลังงานแห่งนี้ใช้ใน 5 ประเทศ ในช่วงกว่า 10 ปีท่ีผ่านมา บริษัทอัลสตอมเข้าให้การในข้อกล่าวหาและตกลงจ่ายเงิน 772 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อยุติการสืบสวน ถือเป็นเงินค่าปรับคดีอาญาที่มากที่สุดของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐภายใต้กฎหมาย Foreign Corrupt Practices Act
แถลงการณ์ของอัยการประกอบด้วยเอกสารหลายสิบหน้าที่เป็นหลักฐานแสดงให้เห็นถึงความพยายามของบริษัทอัลสตอมในการเข้าไปหว่านล้อมในอียิปต์ ซาอุดิอาราเบีย ใต้หวัน และบาฮามาส ในเอกสารระบุว่าผู้บริหารของบริษัทพยายามปิดปากพนักงานของตนในเรื่องการจ่ายสินบน เอกสารรวมถึงกรณีคอรัปชันในอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นหลักฐานในการตั้งข้อกล่าวหาต่ออดีตผู้บริหารของอัลสตอมและหุ้นส่วนทางธุรกิจในชั้นศาลที่รัฐคอนเนกติกัส
คดีคอรัปชันที่สหรัฐอเมริกาเป็นหนึ่งในหลายๆ คดีที่อัลสตอมถูกฟ้องร้อง ในขณะเดีวกันบริษัท General Electric Co. กำลังเข้าซื้อกิจการซึ่งมีมูลค่าทรัพย์สิน 12.4 พันล้านยูโร
ในสหราชอาณาจักร บริษัทอัลสตอมและพนักงานสองคนถูกตั้งข้อกล่าวหาโดย U.K.’s Serious Fraud Office กรณีการติดสินบนในลิธัวเนีย ทนายของพวกเขาไม่ต้องการจะให้ความเห็นใดๆ บริษัทอัลสตอมเองยังเผชิญกับการสืบสวนการคอรัปชันในบราซิลอีกด้วย
แผนคอรัปชั่น
เอกสารของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ชี้ให้เห็นว่า บริษัทอัลสตอมจ่ายเงินมากกว่า $75 ล้านเหรียญสหรัฐ ในการคอรัปชั่นระหว่างปี 2543 ถึงปี 2554 เพื่อให้ชนะประมูลโครงการพลังงานมูลค่า 4 พันล้านเหรียญสหรัฐจากรัฐวิสาหกิจ โดยผ่าน “ที่ปรึกษา” ซึ่งทางอัยการสหรัฐบอกว่าเป็นช่องทางในการจ่ายเงินสินบนไปยังเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลในห้าประเทศ
James Cole รองหัวหน้าอัยการสูงสุดของสหรัฐ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “แผนคอรัปชั่นของอัลสตอมกินเวลากว่าสิบปีและกระจายไปหลายประเทศทั่วโลก เป็นเรื่องที่น่ากลัวในแง่ของการแผ่ขยายในระดับโลก”
“เราเสียใจอย่างสุดซึ้งที่เกิดปัญหามากมายในอดีต” นาย Patrick Kron ผู้อำนวยการบริหารของ Alstom SA แถลงในรายงาน บริษัทที่มีฐานอยู่ที่ Levallois-Perret ฝรั่งเศส อย่างอัลสตอมกำลังเปลี่ยนแปลงระเบียบวิธีปฏิบัติของการดำเนินธุรกิจของตน
ในซาอุดิอาราเบีย บริษัทอัลสตอมเข้าประมูลโครงการมูลค่า 3 พันล้านเหรียญสหรัฐ ผู้บริหารของบริษัทแจกเงินติดสินบนผ่าน “ที่ปรึกษา” ราว 6 คน ซึ่งในเอกสารของบริษัทระบุเป็นชื่อรหัส รวมถึงชื่อรหัส “มิสเตอร์เจนีวา” และ “เพื่อนเก่า”
แผนปฏิบัติการ
บริษัทอัลสตอมเก็บรายละเอียดข้อมูลของพนักงานรัฐวิสาหกิจด้านไฟฟ้าของประเทศต่างๆ เพื่อสร้างโอกาสในการทำธุรกิจของตน พนักงานอัยการอ้างอิงถึงแผนปฏิบัติการ เดือนมกราคม 2543 สำหรับการประมูลที่ระบุถึงการรับรู้ของผู้กำหนดนโยบายที่ Saudi Electricity Co., และ “ประเด็นสำคัญที่สุด” ในการจัดการเรื่องนี้
ในแผนปฏิบัติการระบุ “ชื่อเสียงอันซื่อสัตย์” อ้างถึงเจ้าหน้าที่รัฐบาลคนหนึ่งที่มีเสียงข้างมากในการอนุมัติสัญญา เพื่อรับประกันการสนับสนุนจากรัฐบาล บริษัทอัลสตอมได้เข้าหาญาติสนิทคนหนึ่งของเจ้าหน้าที่รัฐบาล ซึ่งในเอกสารภายในของบริษัทอัลสตอมอ้างถึงในนาม มิสเตอร์ปารีส ซึ่งอัลสตอมจ่ายให้ 4 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อติดสินบนผู้บริหาร
อัยการระบุว่า บริษัทอัลสตอมยังบริจาคเงิน 2.2 ล้านเหรียญสหรัฐให้กับมูลนิธิการศึกษาเพื่ออิสลามในสหรัฐอเมริกาที่มีส่วนสัมพันธ์กับเจ้าหน้าที่รัฐบาลซาอุดิอาราเบีย แต่มิได้ระบุว่าเป็นใคร
แปดร้อยล้านเหรียญ
หลายประเทศได้เปิดให้มีการตรวจสอบบริษัทอัลสตอมนับตั้งแต่ปี 2547 เมื่อผู้ตรวจสอบของธนาคารสวิส(the Swiss Federal Banking Commission) เปิดเผยข้อมูลที่แสดงให้เห็นถึงการคอรัปชั่น จนถึงปัจจุบัน บริษัทอัลสตอมต้องจ่ายเงินมากกว่า 53 ล้านเหรียญสหรัฐให้กับพนักงานของตนในการติดสินบนเจ้าพนักพนักงาน
ค่าปรับที่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกาที่อัลสตอมต้องจ่ายอาจสูงถึง 800 ล้านเหรียญสหรัฐ นาย Patrick Kron ผู้อำนวยการบริหารของ Alstom SA กล่าวในเดือนธันวาคม 2557
การสืบสวนของสหรัฐอเมริกานำโดย Daniel Kahn ในแผนก fraud section และ David Novick อัยการผู้ช่วยในรัฐ Connecticut การสืบสวนรวมถึงเรื่องข้อกล่าวหาคอรัปชั่นในอินโดนีเซีย
เจ้าหน้าที่สืบสวนต้องใช้แหล่งข่าวเพื่อหาหลักฐานข้อมูลและทำการฟ้องร้องอดีตผู้บริหารบริษัทอัลสตอมจากการที่บริษัทปฏิเสธให้ความร่วมมือ