โดยธรรมชาติของการผลิตพีวีซี สารตั้งต้นของกระบวนการผลิตอย่างไวนิลคลอไรด์โมโนเมอร์มักจะต้องผลิตเป็นปริมาณมาก ๆ ในโรงงานที่ใดที่หนึ่ง ซึ่งแน่นอนว่ามันไกลออกไปจากโรงงานผลิตพีวีซี ทำให้ต้องมีการขนส่งไวนิลคลอไรด์โมโนเมอร์ไปสู่โรงงานพีวีซีไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง ไม่ทางอากาศก็ทางรถ รถไฟหรือทางทะเล จุดนี้เองที่ทำให้เกิดความเสี่ยงภัยแก่ชุมชนตลอดเส้นทางการขนส่งนั้น ๆ
ระหว่างการขนส่ง ไวนิลคลอไรด์โมโนเมอร์จะถูกอัดให้เป็นของเหลว ดังนั้นการรั่วไหลเพียงน้อยนิดก็อาจทำให้เกิดระเบิดได้ เนื่องจากไวนิลคลอไรด์โมโนเมอร์สามารถจุดติดไฟได้ที่อุณหภูมิ –77 องศาเซลเซียส และมีจุดวิกฤตที่อุณหภูมิต่ำกว่า 160 องศาเซลเซียส และการติดไฟก็เกิดได้ทั้งจากการมีเปลวไฟ การสปาร์คและการร้อนของพื้นผิว
เป็นการยากมากที่จะควบคุมการลุกใหม้ของไวนิลคลอไรด์โมโนเมอร์ เพราะมันละลายในน้ำได้เพียงเล็กน้อย มันจะลอยตัวเหนือน้ำและเปลี่ยนเป็นก๊าซอย่างรวดเร็ว ขณะที่ลอยตัวเหนือน้ำ จะรวมตัวกับอากาศเกิดเป็นสารที่ระเบิดได้ง่าย หากสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นในระบบระบายของเสีย การระเบิดก็จะเกิดได้ง่ายมาก
เท่าที่มีการรายงานพบว่าอุบัติเหตุรุนแรงจากการขนส่งไวนิลคลอไรด์โมโนเมอร์มีไม่น้อย ในช่วงปี 2507 ถึง 2523 สถิติอุบัติเหตุไวนิลคลอไรด์โมโนเมอร์มีมากถึง 17 ครั้ง ซึ่งทุกครั้งเกี่ยวข้องกับการติดไฟ และมี 11 ครั้งที่ต้องมีการอพยพคนที่อยู่รอบๆ สถานที่เกิดเหตุ
กรณีศึกษาอุบัติภัยจากการขนส่งพีวีซี
28 มีนาคม 2521
รถไฟขนสินค้าขบวนหนึ่งซึ่งขนสินค้าหลายชนิดรวมทั้งไวนิลคลอไรด์โมโนเมอร์และบูตาดีน (Butadine) เกิดตกรางใกล้ลูอิสวิลล์ รัฐอาคันซอว์ สหรัฐอเมริกา ทำให้ถังไวนิลคลอไรด์โมโนเมอร์ระเบิดเกิดไฟลุกท่วมลามไปยังถังเก็บน้ำมันดิบและเคมีภัณฑ์อื่นของบริษัท เจพี ปิโตรเลียม จำกัดที่อยู่ใกล้เคียง ทุกอย่างเกิดอย่างรวดเร็วเกินการควบคุม โรงงานของเจพี ปิโตรเลียมถูกเพลิงผลาญไปเกือบหมด ทำให้ต้องอพยพพลเมืองลูอิสวิลล์ถึง 1,700 คน
8 พฤษภาคม 2523
เกิดอุบัติเหตุที่สถานีขนส่งสินค้าทางรถไฟในเยอรมนี รถขบวนหนึ่งซึ่งบรรทุกรถขนส่งแบบรัสเซีย 8 คัน และแต่ละคันบรรทุกไวนิลคลอไรด์โมโนเมอร์ 50 ตัน แล่นมา เกิดชะลอไม่ได้และชนในที่สุด ถังไวนิลคลอไรด์โมโนเมอร์ทั้งหมดระเบิด
26 กรกฎาคม 2523
รถไฟขนสินค้าขบวนตกรางใกล้หลุยส์วิลล์ รัฐเคนตัคกี้ สหรัฐอเมริกา รถบรรทุกไวนิลคลอไรด์โมโนเมอร์สองคันไฟลุกท่วม ต้องอพยพคนสองพันคนในพื้นที่ใกล้เคียง ความพยายามดับไฟด้วยหลากหลายวิธีล้มเหลว ต้องใช้เวลาถึงห้าวันกว่าจะยุติเปลวเพลิงได้
บ่อยครั้งที่เกิดอุบัติเหตุเกี่ยวกับการขนส่งไวนิลคลอไรด์โมโนเมอร์แต่ไม่รุนแรงมากนัก ตามตัวเลขของสหพันธ์องค์กรสิ่งแวดล้อมเยอรมนีพบว่าจนถึงปี 2528 มีอุบัติเหตุเช่นนี้มากถึง 42 ครั้งเกิดขึ้นทั่วโลก
ในอิตาลี แต่ละสัปดาห์โรงงานโซลเวย์จะต้องขนส่งสารไวนิลคลอไรด์โมโนเมอร์ที่อัดแล้ว 1,000 ตันจากโรงงานในเรนเบิร์ก (Rheinburg) เมืองทางตอนเหนือไปยังโรงงานในเฟอร์ราร่า (Ferrara) เป็นประจำ ซึ่งต้องผ่านย่านชุมชนและอุตสาหกรรมหนาแน่น นี่แค่เพียงหนึ่งตัวอย่างเท่านั้น
ในปี 2532 นักพิษวิทยาชาวเยอรมันได้ให้ความเห็นต่อการขนส่งไวนิลคลอไรด์โมโนเมอร์ไว้อย่างน่าฟังว่า “เราได้สรุปแล้วว่าการขนส่งสารเคมีอันตรายทางรถไฟและทางถนน เป็นสิ่งไม่สมควรเนื่องจากจะทำให้ประชากรสองข้างทางมีความเสี่ยงสูงหากเกิดอุบัติเหตุไฟใหม้หรือระเบิด ไม่รวมความเสียหายทางวัตถุอีกมหาศาล”
ขณะที่การขนส่งไวนิลคลอไรด์โมโนเมอร์ทางเรือก็มีความเสี่ยงโดยตรงกับทะเล
บริษัท ไฮโดรโพลิเมอร์ (Hydro Polymers Ltd) เป็นผู้ผลิตพีวีซีรายใหญ่ของยุโรปและเป็นแขนขวาให้บริษัทปิโตรเคมี Norsk Hydro แห่งสแกนดิเนเวียซึ่งมีฐานการผลิตพีวีซีในนอร์เวย์ สวีเดนและสิงคโปร์ มีกำลังการผลิตพีวีซีเรซินราว 125,000 ตันต่อปี และสารประกอบพีวีซีอีก 60,000 ตันต่อปี ซึ่งต้องบรรทุกวัตถุดิบไวนิลคลอไรด์โมโนเมอร์จากทะเลเหนือไป Rafnes ในนอร์เวย์ ไปยัง Teesides ในสหราชอาณาจักรทุกสัปดาห์
ตามแผนแล้วไฮโดรโพลิเมอร์จะขยายกำลังการผลิต ทำให้ต้องขนส่งไวนิลคลอไรด์โมโนเมอร์มากขึ้นอีกในเส้นทางการขนส่งทางเรือที่ต้องเจอพายุมากที่สุดในโลก
ยักษ์ใหญ่ อย่างบริษัทไอซีไอเองก็มีการขนไวนิลคลอไรด์โมโนเมอร์ข้ามทะเลไม่ต่ำกว่า 100,000 ตันต่อปี จากสหราชอาณาจักรไปยังโรงงานใน Willemshaven ทางตอนเหนือของเยอรมัน นอกจากนี้ไอซีไอก็ยังขนไวนิลคลอไรด์โมโนเมอร์ราว80,000 ตัน ทุกสัปดาห์จากWillemshaven ไปโปรตุเกส
ในปี 2527 เรือบรรทุกสินค้า Brigitta Montari บรรทุกไวนิลคลอไรด์โมโนเมอร์ 1,300 ตัน ไปจมที่ชายฝั่งยูโกสลาเวียและไม่สามารถกู้ได้ ซึ่งต่อมาในปี 2530 พบว่าไวนิลคลอไรด์โมโนเมอร์รั่วออกมา กระทั่งมีการกู้เรือในปี 2531 ก็ยังคงไม่สามารถทราบได้ว่ามีไวนิลคลอไรด์โมโนเมอร์รั่วออกไปสู่ทะเลเป็นปริมาณเท่าใด
มีการทำนายว่าภูมิภาคตะวันออกไกลและละตินอเมริกาจะเป็นเป้าหมายสำคัญสำหรับการขนส่งสารไวนิลคลอไรด์โมโนเมอร์ที่ยังคงเหลือในทศวรรษนี้ นั่นย่อมชัดเจนว่าการขนส่งสารเคมีอันตรายหลายล้านตันเช่นนี้น่าจะได้รับการจับตามองเป็นพิเศษอย่างยิ่ง