การแถลงข่าวของกระทรวงต่างประเทศ สหรัฐฯ ว่าด้วยข้อตกลงความร่วมมือในการใช้พลังงานนิวเคลียร์อย่างสันติ (the Agreement for Cooperation Concerning Peaceful Uses of Nuclear Energy) กับไทย ลงวันที่ 11 กรกฎาคม 2568 และข้อตกลงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 9 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา ท่ามกลางช่วงแห่งความวุ่นวายของการเจรจาภาษี เนื้อหาในใบแถลงข่าวยังอาจตีความไปได้ถึงการยื่นหมูยื่นแมวเพื่อต่อรองภาษีแลกกับการขายเทคโนโลยีนิวเคลียร์โดยเฉพาะอย่างยิ่ง small modular reactor จากบริษัทอุตสาหกรรมนิวเคลียร์ของสหรัฐอเมริกา

เมื่อพิจารณาเนื้อหาอย่างรอบคอบ จะเห็นว่า แท้ที่จริงข้อตกลงความร่วมมือในการใช้พลังงานนิวเคลียร์อย่างสันติ (the Agreement for Cooperation Concerning Peaceful Uses of Nuclear Energy) ของสหรัฐฯ ซึ่งมีชื่อย่อว่า “123 Agreement” นั้นเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินนโยบาย(ทางการทูต)ของรัฐบาลสหรัฐอเมริกามาทุกยุคทุกสมัยนับตั้งแต่มีการออกกฎหมายพลังงานปรมาณูแห่งสหรัฐอเมริกา (U.S. Atomic Energy Act) ในปี ค.ศ.1954 หรือเมื่อ 71 ปีที่แล้ว

ในมาตรา 123 ของกฎหมายนี้กำหนดโดยทั่วไปว่าต้องมีการจัดทำข้อตกลงความร่วมมือด้านนิวเคลียร์เพื่อสันติ (peaceful nuclear cooperation agreement) สำหรับการถ่ายโอนวัสดุนิวเคลียร์หรืออุปกรณ์ที่สำคัญจากสหรัฐอเมริกาไปยังประเทศอื่นๆ ข้อตกลงดังกล่าวซึ่งมักเรียกกันว่า “ข้อตกลง 123” (123 Agreements) ยังเปิดทางให้เกิดความร่วมมือในด้านอื่นๆ เช่น การแลกเปลี่ยนทางเทคนิค การวิจัยทางวิทยาศาสตร์ และการหารือเกี่ยวกับมาตรการควบคุมและตรวจสอบ (safeguards) ด้านนิวเคลียร์

เมื่อดำเนินการร่วมกับเครื่องมืออื่นๆ ด้านการไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ โดยเฉพาะสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ (Treaty on the Non-Proliferation of Nuclear Weapons – NPT) ข้อตกลง 123 จึงมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมหลักการไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ ข้อตกลงเหล่านี้สร้างกรอบกฎหมายสำหรับความร่วมมือด้านนิวเคลียร์ที่สำคัญกับประเทศอื่นๆ

หากประเทศคู่สัญญาประสงค์จะทำข้อตกลง 123 กับสหรัฐอเมริกา ประเทศนั้นต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านการไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ที่เข้มงวดหลายประการ กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ (U.S. State Department) เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบในการเจรจาข้อตกลง 123 โดยได้รับความช่วยเหลือทางเทคนิคและความเห็นชอบจากกระทรวงพลังงาน/สำนักงานบริหารความมั่นคงนิวเคลียร์แห่งชาติ (DOE/NNSA) รวมถึงการปรึกษาหารือกับคณะกรรมาธิการกำกับกิจการนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ (U.S. Nuclear Regulatory Commission)

ณ วันที่ 12 ธันวาคม ค.ศ. 2024 สหรัฐอเมริกามีข้อตกลง 123 มีผลบังคับใช้แล้วจำนวน 26 ฉบับ ครอบคลุมความร่วมมือด้านนิวเคลียร์เพื่อสันติกับ 50 ประเทศ องค์การพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) และหน่วยงานบริหารของไต้หวัน (ผ่านสถาบันอเมริกันในไต้หวัน – American Institute in Taiwan) ดังนี้

ประเทศที่มีข้อตกลง 123 กับสหรัฐอเมริกา (วันที่เริ่มมีผลบังคับใช้และวันหมดอายุ)

  • อาร์เจนตินา (16 ตุลาคม 1997 / 16 ตุลาคม 2027)
  • ออสเตรเลีย (22 ธันวาคม 2010 / 22 ธันวาคม 2040 พร้อมขยายอายุอัตโนมัติครั้งละ 5 ปี)
  • บราซิล (15 กันยายน 1999 / 15 กันยายน 2029)
  • แคนาดา (21 กรกฎาคม 1955 / 1 มกราคม 2030 พร้อมขยายอายุอัตโนมัติครั้งละ 5 ปี)
  • จีน (29 ตุลาคม 2015 / 29 ตุลาคม 2045)
  • ประชาคมพลังงานปรมาณูยุโรป (Euratom) (12 เมษายน 1996 / 12 เมษายน 2026 พร้อมขยายอายุอัตโนมัติครั้งละ 5 ปี)
  • องค์การพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) (7 สิงหาคม 1959 / 7 สิงหาคม 2054)
  • อินเดีย (6 ธันวาคม 2008 / 6 ธันวาคม 2048 พร้อมขยายอายุอัตโนมัติครั้งละ 10 ปี)
  • อินโดนีเซีย (30 ธันวาคม 1981 / 30 ธันวาคม 2031)
  • ญี่ปุ่น (17 กรกฎาคม 1988 / 17 กรกฎาคม 2018 แต่ยังมีผลบังคับใช้ต่อไปจนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะยกเลิก)
  • คาซัคสถาน (5 พฤศจิกายน 1999 / 5 พฤศจิกายน 2029)
  • สาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) (25 พฤศจิกายน 2015 / 25 พฤศจิกายน 2040)
  • เม็กซิโก (2 พฤศจิกายน 2022 / 2 พฤศจิกายน 2052)
  • โมร็อกโก (16 พฤษภาคม 1981 / 16 พฤษภาคม 2021 พร้อมขยายอายุอัตโนมัติครั้งละ 5 ปี)
  • นอร์เวย์ (19 มกราคม 2017 / 19 มกราคม 2047)
  • ฟิลิปปินส์ (2 กรกฎาคม 2024 / 2 กรกฎาคม 2054)
  • สหพันธรัฐรัสเซีย (11 มกราคม 2011 / 11 มกราคม 2041)
  • สิงคโปร์ (12 ธันวาคม 2024 / 12 ธันวาคม 2054)
  • สวิตเซอร์แลนด์ (23 มิถุนายน 1998 / 23 มิถุนายน 2028 พร้อมขยายอายุอัตโนมัติครั้งละ 5 ปี)
  • ไต้หวัน (22 มิถุนายน 2014 / ไม่มีกำหนดหมดอายุ)
  • ประเทศไทย (9 กรกฎาคม 2025 / 9 กรกฎาคม 2025)
  • ตุรกี (2 มิถุนายน 2008 / 2 มิถุนายน 2023 พร้อมขยายอายุอัตโนมัติครั้งละ 5 ปี)
  • ยูเครน (28 พฤษภาคม 1999 / 28 พฤษภาคม 2029)
  • สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (17 ธันวาคม 2009 / 17 ธันวาคม 2039)
  • สหราชอาณาจักร (31 ธันวาคม 2020 / 31 ธันวาคม 2050)
  • เวียดนาม (3 ตุลาคม 2014 / 3 ตุลาคม 2044 พร้อมขยายอายุอัตโนมัติครั้งละ 5 ปี)

โดยสรุปในเบื้องต้น ข้อตกลงความร่วมมือในการใช้พลังงานนิวเคลียร์อย่างสันติ (the Agreement for Cooperation Concerning Peaceful Uses of Nuclear Energy) หรือข้อตกลง 123 นั้น ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการเจรจาภาษีเพื่อแลกกับการได้มาซึ่งเทคโนโลยีนิวเคลียร์โดยเฉพาะ small modular reactor จากสหรัฐฯ แต่อย่างใด และคำว่า Enters Into Force ในที่นี้หมายถึงการมีผลบังคับใช้ตามข้อตกลง ไม่มีนัยยะสำคัญอะไรต่อกฏหมายที่เกี่ยวข้องกับพลังงานนิวเคลียร์ที่มีอยู่ในประเทศไทย หรือนำไปสู่การวางแผนที่จะมีการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ใดๆ ที่จะมีขึ้นในประเทศไทย

เมื่อพิจารณาถึงข้อตกลง 123 ในมิติทางภูมิรัฐศาสตร์ ก็ไม่น่าแปลกใจว่า สหรัฐอเมริกาในฐานะ “หัวหน้าหมู่บ้านนิวเคลียร์โลก” ได้ใช้ U.S. Atomic Energy Act เป็นเครื่องมือเพื่อคงไว้ซึ่งอำนาจและอิทธิพลนับตั้งแต่ยุคสงครามเย็นมาสู่การควบคุมเครือข่ายเชิงยุทธศาสตร์ระดับโลก โดยสหรัฐฯ มุ่งมั่นเพื่อรักษาความเป็นมหาอำนาจของตนและรับรู้ว่าแม้ศักยภาพของประเทศจะยังแข็งแกร่งแต่ก็เริ่มลดลงเมื่อเทียบกับจีนที่กำลังเติบโต

ธารา บัวคำศรี-Thailand Nuclear Watchdog