เขียนโดย Stephen Kretzmann ผู้เป็นประจักษ์พยานต่อความโลภและอาชญากรรมของอุตสาหกรรมน้ำมันทั่วโลกมาตลอด 35 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 1988 ถึง 1996 เขาทำงานกับ Greenpeace และในปี 2005 เขาได้ก่อตั้งองค์กร Oil Change International
Greenpeace องค์กรสิ่งแวดล้อมระดับโลกกำลังถูกดำเนินคดีในนอร์ทดาโคตา
Energy Transfer บริษัทท่อส่งน้ำมันและก๊าซได้แต่งเรื่องขึ้น (จริง ๆ นะ) ว่า Greenpeace เป็นผู้วางแผนและอยู่เบื้องหลังการประท้วงครั้งประวัติศาสตร์ต่อต้านโครงการ Dakota Access Pipeline (DAPL) ที่ Standing Rock, นอร์ทดาโคตา คุณอาจจำได้ว่า การต่อสู้ครั้งนั้นในปี 2016 เป็นการปะทะกันระหว่าง “ผู้ปกป้องสายน้ำ” และตำรวจติดอาวุธที่ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทรักษาความปลอดภัยของเอกชน พร้อมกับการเรียกร้องที่ดังกึกก้องไปทั่วว่า Mni Wiconi (น้ำคือชีวิต)

แนวคิดที่ว่า Greenpeace เป็นผู้อยู่เบื้องหลังทั้งหมดนี้แน่นอนว่าเป็นเรื่องไร้สาระอย่างสิ้นเชิง แต่ Energy Transfer กำลังเดิมพันว่าคณะลูกขุนในนอร์ทดาโคตาจะเชื่อง่าย ๆ กับคำโกหกที่ได้รับการสนับสนุนจากสื่อสายอนุรักษ์นิยมอย่าง Fox News ซึ่งพยายามทำให้ Greenpeace ดูเหมือนเป็นเพียงกลุ่มฮิปปี้ไว้ผมยาวที่เกลียดท่อส่งน้ำมันและอเมริกา
คณะลูกขุนไม่ควรหลงเชื่อเรื่องนี้และใคร ๆ ก็ไม่ควรเชื่อเช่นกัน นี่คือเกมการเมืองที่ไร้ยางอายเพื่อทำให้ Greenpeace เป็นตัวอย่างและข่มขู่ไม่ให้มีการประท้วงเพื่ออากาศและน้ำสะอาด รวมถึงเพื่ออนาคตของลูกหลานของเรา นี่คือความพยายามทำให้การประท้วงเป็นอาชญากรรม ซึ่งเป็นกลยุทธ์หลักของอุตสาหกรรมน้ำมันและรัฐที่พึ่งพารายได้จากน้ำมัน พันธมิตรอันแสนสกปรกระหว่างรัฐเผด็จการและบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานนี้เป็นสิ่งที่ใครก็ตามที่ติดตามสถานการณ์โลกรู้ดี พวกมันเป็นเหมือนปรสิตที่เกื้อหนุนกันและสูบเลือดจากพวกเราทุกคน
แต่ความจริงก็คือ ชนพื้นเมืองทั่วโลกได้ต่อสู้กับอุตสาหกรรมน้ำมันมายาวนานหลายทศวรรษเพื่อปกป้องสิทธิในที่ดิน น้ำ และชีวิตของพวกเขาเอง การต่อต้านของชนพื้นเมืองต่ออุตสาหกรรมน้ำมันในช่วง 40 ปีที่ผ่านมาเป็นเรื่องที่พบเห็นได้บ่อยครั้ง เต็มไปด้วยความเจ็บปวด แต่ก็เป็นแรงบันดาลใจให้กับทุกคนที่ได้เห็น
เอกวาดอร์ (ต้นยุค 90) – ชนเผ่า Huaorani ต้องเผชิญกับ Robert F. Kennedy Jr. ที่อายุน้อยกว่าปัจจุบันแต่ก็ยังไร้เดียงสาพอ ๆ กัน เขาพยายามทำข้อตกลงกับบริษัท Conoco เพื่อแลกเปลี่ยนเงินทุนด้านการศึกษา โดยแลกกับการทำลายสิ่งแวดล้อม ข้อตกลงล้มเหลวในที่สุด ต่อมาบริษัท Chevron ซื้อกิจการ Conoco และ Texaco และในปี 2011 ศาลเอกวาดอร์ตัดสินให้ Chevron ต้องจ่ายค่าเสียหาย 9.5 พันล้านดอลลาร์ แต่จนถึงปัจจุบันชาวเอกวาดอร์กว่า 30,000 คนที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ยังไม่ได้รับเงินแม้แต่บาทเดียว
ไนจีเรีย (10 พฤศจิกายน 1995) – Ken Saro-Wiwa และนักเคลื่อนไหวอีก 8 คนถูกแขวนคอด้วยข้อหาที่กุขึ้นมา เพียงเพราะพวกเขาต่อต้าน Shell
โคลอมเบีย (ปลายยุค 90) – ชนเผ่า U’wa ยืนหยัดต่อต้านการขุดเจาะน้ำมันในดินแดนของตน พวกเขาเรียกการขุดเจาะว่าเป็น “ความก้าวหน้าที่ต่อต้านชีวิต” และเปิดตัวการรณรงค์อันทรงพลังทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับโลก
ศตวรรษที่ 21: สนามรบใหม่ในอเมริกาเหนือ หลังเหตุการณ์ 9/11 และการพัฒนาเทคโนโลยี fracking พรมแดนของอุตสาหกรรมน้ำมันโลกก็เริ่มเปลี่ยนกลับมาสู่อเมริกาเหนืออีกครั้ง
การต่อต้านน้ำมันจากแคนาดาโดยชนเผ่าพื้นเมืองเข้มแข็งอยู่แล้วเมื่อโครงการ Keystone XL ถูกเสนอขึ้นมา ต่อมา พวกเขาได้ร่วมมือกับกลุ่มคาวบอยเพื่อจัดตั้ง “Cowboy and Indian Alliance” จนสามารถยุติโครงการไปได้
ในเดือนเมษายน 2016 เยาวชนจากเผ่า Standing Rock Sioux และชุมชนใกล้เคียงได้ตั้งค่ายต่อต้านโครงการ Dakota Access Pipeline ทั้งเพื่อปกป้องอธิปไตยของชนพื้นเมืองและปกป้องสิ่งแวดล้อม เพียงหกเดือนให้หลัง การเคลื่อนไหวนี้กลายเป็น การรวมตัวของชนพื้นเมืองอเมริกันที่ใหญ่ที่สุดในรอบ 100 ปี
Greenpeace ไม่ได้เป็นผู้นำของการเคลื่อนไหวนี้
Waniya Locke จากกลุ่ม Standing Rock Grassroots กล่าวอย่างชัดเจนว่า “ฉันอยากให้ทุกคนเข้าใจให้ชัดเจนว่าไม่มีองค์กร NGO ไหนเป็นผู้เริ่มหรือจัดตั้งการต่อต้านของเรา และมันถูกนำโดยผู้หญิง มันเป็นการเคลื่อนไหวที่นำโดยเหล่าแม่ๆ ของเรา ผู้ที่ยืนหยัดอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโดยไม่มีอาวุธ”
การกล่าวหาว่า Greenpeace อยู่เบื้องหลังการลุกขึ้นสู้ของชนพื้นเมืองเป็นเพียงการผสมกันของความหวาดระแวงและความมุ่งร้ายในระดับสูงสุด แต่สำหรับบรรษัทน้ำมันแล้ว Greenpeace เป็นเป้าหมายที่ง่ายกว่าการโทษคนเป็นพันล้านที่เชื่อว่าสิ่งที่มีคุณค่าในโลกนี้ไม่ควรถูกวัดด้วยผลกำไรจากน้ำมัน
Energy Transfer อาจชนะในครั้งนี้ CEO ของบริษัทที่มีความสัมพันธ์แนบแน่นกับโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังใช้ทุกอำนาจที่มีในศาลท้องถิ่นของรัฐที่พึ่งพาอุตสาหกรรมน้ำมัน และพยายามชี้นำคณะลูกขุนให้ตัดสินเข้าข้างบริษัทของเขา หาก Energy Transfer ชนะ Greenpeace อาจล้มละลายได้
แต่พึงระลึกไว้ว่า Greenpeace เคยเผชิญหน้ากับอำนาจที่โหดร้ายกว่านี้มาแล้ว และมันก็ย้อนกลับไปทำลายฝ่ายที่โจมตีพวกเขาเอง
ในปี 1985 Rainbow Warrior เรือธงของ Greenpeace ถูกระเบิดโดยสายลับฝรั่งเศส ขณะเทียบท่าอยู่ที่นิวซีแลนด์ เพราะรัฐบาลฝรั่งเศสต้องการขัดขวางการรณรงค์ของ Greenpeace ที่ต่อต้านการทดลองนิวเคลียร์ของ แต่ผลที่ได้กลับตรงกันข้าม – ฝรั่งเศสต้องเผชิญกับความอับอายระดับโลก และ Greenpeace ได้รับการสนับสนุนอย่างล้นหลาม
สิ่งเดียวกันอาจเกิดขึ้นกับ Energy Transfer เช่นกัน พวกเขากำลังจะเรียนรู้ว่า “คุณไม่อาจจมนักรบสายรุ้ง และคุณไม่อาจหยุด movement”
