การรั่วไหลของมีเทนจากอุตสาหกรรมฟอสซิลมีส่วนก่อวิกฤตโลกเดือด 30% และ MethaneSat จะเผยมุมมองที่ครอบคลุมในระดับโลกเป็นครั้งแรก
เรียบเรียงจาก https://www.theguardian.com/environment/2024/mar/04/satellite-to-name-and-shame-worst-oil-and-gas-methane-polluters?CMP=Share_iOSApp_Other

ดาวเทียมขนาดเท่าเครื่องซักผ้าจะช่วยเปิดโปงชื่อผู้ปล่อยก๊าซมีเทนในอุตสาหกรรมน้ํามันและก๊าซฟอสซิล
MethaneSat มีกําหนดเปิดตัวจากแคลิฟอร์เนียบนจรวด SpaceX ในวันที่ 4 มีนาคม 2567 เวลา 14.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น (22:00 GMT) เครื่องมือของ MethaneSat นี้สามารถบันทึกข้อมูลระดับโลกที่เกือบจะครอบคลุมครั้งแรกเกี่ยวกับการรั่วไหลของก๊าซมีเทนซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกที่มีศักยภาพการก่อโลกร้อนสูงจากอุตสาหกรรมน้ํามันและก๊าซฟอสซิล และข้อมูลทั้งหมดจะถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ เป็นข้อมูลที่มีความละเอียดสูงในพื้นที่กว้างกว่าดาวเทียมที่มีอยู่
มีเทน หรือที่เรียกว่าก๊าซฟอสซิล มีส่วนก่อภาวะโลกร้อน 30% การรั่วไหลจากอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นแหล่งสําคัญของการปล่อยมีเทนที่เกิดจากมนุษย์ การลด/ยุติการปล่อยก๊าซมีเทนเป็นวิธีเดียวที่เร็วที่สุดในการจำกัดอุณหภูมิเฉลี่ยผิวโลกที่สูงขึ้น
MethaneSat ได้รับการพัฒนาโดย Environmental Defend Fund (EDF) ซึ่งเป็นองค์กรพัฒนาเอกชนของสหรัฐฯ โดยร่วมมือกับองค์การอวกาศนิวซีแลนด์ และมีค่าใช้จ่าย 88 ล้านดอลลาร์ในการสร้างและเปิดตัว
มากกว่า 150 ประเทศได้ลงนามในคํามั่นสัญญาเกี่ยวกับก๊าซมีเทนทั่วโลกเพื่อลดการปล่อยก๊าซลง 30% จากระดับปี 2563 ภายในปี 2573 บริษัทน้ํามันและก๊าซฟอสซิลบางแห่งได้ให้คํามั่นสัญญาในลักษณะเดียวกัน และกฎระเบียบใหม่เพื่อจํากัดการรั่วไหลของก๊าซมีเทนกําลังดําเนินการในสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้
Mark Brownstein รองประธานอาวุโสของ EDF กล่าวว่า “MethaneSat เป็นเครื่องมือสําหรับความรับผิดชอบ ผมแน่ใจว่าหลายคนคิดว่าสิ่งนี้สามารถใช้ระบุชื่อและเปิดโปงบริษัทที่ปล่อยมลพิษ และนั่นก็เป็นความจริง ขณะเดียวกัน ก็ช่วยบันทึกความคืบหน้าในการลดการปล่อยมลพิษของบริษัท”

สตีเวน ฮัมบูร์ก หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของ EDF และหัวหน้าโครงการ MethaneSat กล่าวว่าอุตสาหกรรมน้ํามันและก๊าซฟอสซิลรู้วิธีหยุดการรั่วไหล และค่าใช้จ่ายในการทําเช่นนั้นมักจะน้อยมาก “บางคนเรียกมันว่า เป้าหมายแค่เอื้อม“ แต่ผมชอบเรียกว่าเป็น ”เป้าหมายที่ถูกทิ้งไป”
Kelly Levin หัวหน้าฝ่ายวิทยาศาสตร์ของ Bezos Earth Fund ซึ่งช่วยสนับสนุนโครงการกล่าวว่า “จากฟากฟ้า MethaneSat สามารถมองเห็นสิ่งที่คนอื่นทําไม่ได้ กล่าวคือ จะช่วยผู้เล่นที่ดี และทำให้ผู้เล่นที่ไม่ดีต้องรับผิดชอบ”
สำนักข่าวเดอะการ์เดียนเปิดเผยที่ตั้ง “super-emitter” มีเทนมากกว่า 1,000 แห่งในเดือนมีนาคม 2566 การรั่วไหลเพียงครั้งเดียวที่เลวร้ายที่สุดคือการระบายก๊าซออกมาในอัตราที่เทียบเท่ากับรถยนต์กำลังวิ่ง 67 คัน นอกจากนี้ยังเปิดเผยการรั่วไหลของก๊าซมีเทนที่ “น่าตกใจ” จากเติร์กเมนิสถาน กระตุ้นให้รัฐบาลให้คํามั่นว่าจะดําเนินการ การเปิดเผยเหล่านี้อิงจากข้อมูลความละเอียดต่ำกว่าจากดาวเทียม Sentinel 5P ขององค์การอวกาศยุโรป
เครื่องมือของ MethaneSat มีความละเอียดประมาณ 140 เมตร เมื่อเทียบกับ Sentinel 5P ประมาณหกกิโลเมตร (3.7 ไมล์) ทําให้สามารถตรวจสอบการรั่วไหลขนาดเล็กที่รวมกันเป็นส่วนใหญ่ของทั้งหมด MethaneSat จะโคจรรอบโลก 15 ครั้งต่อวันที่ระดับความสูง 590 กม. และรวบรวมข้อมูลในระยะ 200 กม. “เป็นครั้งแรกที่เราจะมีข้อมูลเชิงประจักษ์สําหรับระบบการผลิตน้ํามันและก๊าซฟอสซิลทั้งหมดทั่วโลกอย่างมีประสิทธิภาพ” ฮัมบูร์กกล่าว่า
ผลลัพธ์แรกหลังจากกระบวนการว่าจ้างคาดว่าจะเริ่มต้นฤดูร้อนโดยมีข้อมูลครบถ้วนตั้งแต่ต้นปี 2025 ภารกิจ Emit ของ NASA ยังรวบรวมข้อมูลความละเอียดสูง แต่ด้วยการวัดก๊าซมีเทนที่มีความแม่นยำาต่ำกว่า MethaneSat สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงที่เล็กน้อยถึงสามส่วนต่อพันล้านส่วน ข้อมูลมีเทนจาก GHGSat เชิงพาณิชย์ไม่สามารถใช้ได้โดยเสรี
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าพวกเขาคาดว่า MethaneSat จะเป็นมาตรฐานทองคําสําหรับการวัดก๊าซมีเทน คาดว่าจะมีส่วนช่วยงานของหอสังเกตการณ์การปล่อยก๊าซมีเทนระหว่างประเทศของสหประชาชาติ ซึ่งจะเปรียบเทียบและเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการรั่วไหล
ฮัมบูร์กกล่าวว่า MethaneSat สามารถใช้ในอนาคตเพื่อติดตามก๊าซมีเทนจากเหมืองถ่านหิน หลุมฝังกลบ และการทําฟาร์ม ซึ่งเป็นแหล่งหลักอื่นๆ ของการปล่อยมลพิษที่เกิดจากมนุษย์ เดอะการ์เดียนเปิดเผยในเดือนกุมภาพันธ์ว่ามีการรั่วไหลของก๊าซมีเทนมากกว่า 1,000 รายการจากพื้นที่ทิ้งขยะตั้งแต่ปี 2552
