เรียบเรียงจาก https://thebulletin.org/wp-content/uploads/2025/01/2025-Doomsday-Clock-Statement.pdf

ในปี 2024 มนุษยชาติเข้าใกล้หายนะมากขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แนวโน้มที่คณะกรรมการวิทยาศาสตร์และความมั่นคงกังวลมาโดยตลอดยังคงดำเนินต่อไป และแม้จะมีสัญญาณเตือนชัดเจน ผู้นำประเทศต่างๆ และสังคมของพวกเขากลับล้มเหลวในการดำเนินมาตรการที่จำเป็นเพื่อเปลี่ยนทิศทาง ดังนั้นนาฬิกาวันสิ้นโลกจึงถูกปรับเข้าใกล้เที่ยงคืนจาก 90 วินาทีเป็น 89 วินาที นับเป็นช่วงเวลาที่ใกล้หายนะที่สุดเท่าที่เคยมีมา เราหวังอย่างยิ่งว่าผู้นำจะตระหนักถึงภาวะวิกฤตของโลกและดำเนินการอย่างกล้าหาญเพื่อลดภัยคุกคามจากอาวุธนิวเคลียร์ วิกฤตสภาพภูมิอากาศ การใช้วิทยาศาสตร์ชีวภาพในทางที่ผิดและเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่กำลังเกิดขึ้น
การขยับเข็มเข้าใกล้เที่ยงคืนแม้เพียงวินาทีเดียวเป็นสัญญาณเตือนที่รุนแรง เพราะโลกอยู่ใกล้ขอบเหวของหายนะแล้ว การเปลี่ยนแปลงแม้เพียงเล็กน้อยจึงเป็นคำเตือนที่ชัดเจนว่า ทุกวินาทีที่เราล่าช้าในการเปลี่ยนทิศทางจะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงของภัยพิบัติระดับโลก
ในด้านความเสี่ยงนิวเคลียร์ สงครามในยูเครนที่ยืดเยื้อมาถึงปีที่สามยังคงเป็นเงาทะมึน เพราะอาจลุกลามกลายเป็นสงครามนิวเคลียร์ได้ทุกเมื่อ ทั้งจากความประมาท อุบัติเหตุ หรือความเข้าใจผิด ความขัดแย้งในตะวันออกกลางก็มีแนวโน้มบานปลายอย่างฉับพลันโดยไม่ทันตั้งตัว ประเทศที่มีอาวุธนิวเคลียร์ต่างเพิ่มจำนวนและบทบาทของคลังแสงนิวเคลียร์ พร้อมทุ่มงบมหาศาลเพื่อพัฒนาอาวุธที่สามารถทำลายอารยธรรมมนุษย์ กระบวนการควบคุมอาวุธนิวเคลียร์พังทลาย ขณะที่การสื่อสารระหว่างประเทศมหาอำนาจยังห่างไกลจากระดับที่สถานการณ์ร้ายแรงเช่นนี้ต้องการ ที่น่าเป็นห่วงคือ บางประเทศที่ยังไม่มีอาวุธนิวเคลียร์เริ่มพิจารณาพัฒนาเอง ซึ่งจะบ่อนทำลายความพยายามควบคุมการแพร่ขยายและเพิ่มความเสี่ยงต่อสงครามนิวเคลียร์
ผลกระทบจากวิกฤตสภาพภูมิอากาศทวีความรุนแรงขึ้นในปีที่ผ่านมา ทั้งระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นและอุณหภูมิผิวโลกที่ทำลายสถิติเก่า ปริมาณก๊าซเรือนกระจกยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ภัยพิบัติที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เช่น น้ำท่วม พายุหมุนรุนแรง คลื่นความร้อน ภัยแล้ง และไฟป่า เกิดขึ้นในทุกทวีป ขณะที่ความพยายามของโลกในการรับมือกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศยังมีแนวโน้มไม่ดี เนื่องจากรัฐบาลส่วนใหญ่ล้มเหลวในการออกนโยบายและจัดหาเงินทุนที่จำเป็น แม้พลังงานแสงอาทิตย์และลมจะเติบโตอย่างน่าประทับใจ แต่ก็ยังไม่เพียงพอจะทำให้อุณหภูมิโลกคงที่ แคมเปญเลือกตั้งล่าสุดในหลายประเทศ รวมถึงสหรัฐฯ ชี้ว่าประเด็นสภาพภูมิอากาศยังเป็นเรื่องรอง
ในมิติชีววิทยา โรคอุบัติใหม่และโรคระบาดซ้ำยังคงเป็นภัยต่อเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงทั่วโลก การระบาดของไข้หวัดนกชนิดรุนแรงนอกฤดูกาล การแพร่สู่สัตว์ฟาร์มและผลิตภัณฑ์นม รวมถึงการติดเชื้อในมนุษย์ ล้วนเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคระบาดใหญ่ในมนุษย์ ห้องปฏิบัติการชีวภาพที่ควรมีความปลอดภัยสูงกลับเพิ่มขึ้นโดยไม่มีระบบกำกับดูแลที่ทันสมัย เพิ่มความเสี่ยงที่เชื้อโรคที่อาจก่อโรคระบาดจะเล็ดลอดออกมา ขณะเดียวกัน การพัฒนา AI อย่างรวดเร็วเพิ่มโอกาสที่ผู้ก่อการร้ายหรือรัฐจะสร้างอาวุธชีวภาพรูปแบบใหม่ที่ไม่มีวิธีรับมือ
เทคโนโลยีก่อกวนอื่น ๆ ก็รุดหน้าต่อเนื่องในปีที่ผ่านมาในลักษณะที่เพิ่มความเสี่ยงต่อโลก เช่น การใช้ AI ในการเล็งเป้าทางทหารในยูเครนและตะวันออกกลาง หลายประเทศกำลังเร่งบูรณาการ AI เข้ากองทัพ ซึ่งสร้างคำถามว่า เราจะยอมให้เครื่องจักรตัดสินใจแทนมนุษย์ได้มากแค่ไหน รวมถึงการตัดสินใจใช้ระเบิดนิวเคลียร์ ความตึงเครียดระหว่างมหาอำนาจสะท้อนผ่านการแข่งขันในอวกาศ โดยจีนและรัสเซียพัฒนาเทคโนโลยีต่อต้านดาวเทียม ขณะที่สหรัฐฯ กล่าวหารัสเซียว่าทดสอบดาวเทียมที่บรรทุกหัวรบนิวเคลียร์จำลอง บ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ของการวางอาวุธนิวเคลียร์ในวงโคจร
ภัยเหล่านี้ล้วนทวีความรุนแรงจากสิ่งหนึ่งที่เป็นตัวคูณความเสี่ยง : การแพร่กระจายของข้อมูลเท็จ ทฤษฎีสมคบคิด และการบิดเบือนข่าวสาร ซึ่งทำลายระบบสื่อสารของสังคมและทำให้เส้นแบ่งระหว่างความจริงกับเท็จเลือนราง การพัฒนา AI ทำให้การผลิตและเผยแพร่ข้อมูลปลอมง่ายขึ้นและตรวจจับยากขึ้น ขณะเดียวกัน ประเทศต่าง ๆ ก็เริ่มใช้ข้อมูลบิดเบือนเพื่อแทรกแซงการเลือกตั้งข้ามพรมแดน บางกลุ่มผู้นำด้านเทคโนโลยี สื่อ และการเมืองกลับส่งเสริมการแพร่กระจายของข้อมูลลวง ระบบข้อมูลที่ถูกบิดเบือนนี้บ่อนทำลายเสรีภาพในการอภิปรายและกระบวนการประชาธิปไตย และกำลังผลิตผู้นำที่ปฏิเสธวิทยาศาสตร์ พยายามปิดปากเสรีภาพในการแสดงออกและละเมิดสิทธิมนุษยชน ซึ่งขัดขวางการถกเถียงเชิงข้อเท็จจริงที่จำเป็นต่อการรับมือภัยคุกคามขนาดมหึมาเหล่านี้
การเดินหน้าต่อไปอย่างมืดบอดในเส้นทางเดิมคือความวิกลจริต สหรัฐฯ จีน และรัสเซียมีอำนาจรวมกันเพียงพอที่จะทำลายอารยธรรมมนุษย์ ทั้งสามประเทศนี้จึงมีความรับผิดชอบสูงสุดในการพาโลกกลับจากขอบเหว และพวกเขาสามารถทำได้ หากผู้นำของพวกเขาเริ่มเจรจาอย่างจริงจังและสุจริตเกี่ยวกับภัยคุกคามระดับโลกที่ระบุไว้ แม้จะมีความขัดแย้งลึกซึ้ง แต่พวกเขาควรเริ่มต้นก้าวแรกโดยไม่รีรอ เพราะโลกกำลังฝากความหวังไว้กับการลงมือทำทันที
ขณะนี้เหลือเวลาเพียง 89 วินาทีก่อนถึงเที่ยงคืน
